หน้าแรก » 60 คำศัพท์ในการทำ SEO

60 คำศัพท์ในการทำ SEO

การทำ SEO เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบนเครื่องมือค้นหาเป็นเรื่องที่ทุกคนที่มีเว็บไซต์ต้องคำนึงถึง แต่ในการทำ SEO นั้นจำเป็นต้องรู้จักคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องเพื่อทำให้เข้าใจและปรับปรุงการทำ SEO ได้อย่างเหมาะสม เช่น backlink, anchor text, meta tags, sitemap, และอีกมากมาย

โดยการเข้าใจคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ SEO จะช่วยให้เราสามารถวางแผนการทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ของเราให้ดีขึ้นได้อย่างเหมาะสมกับเครื่องมือค้นหา ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาวิธีการเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบนเครื่องมือค้นหา ควรรู้จักคำศัพท์เหล่านี้เพื่อเพิ่มโอกาสในการปรับปรุง SEO ของคุณให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

60 คำศัพท์ SEO

[lwptoc]
  • SEO (Search Engine Optimization)

เป็นการปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบนผลการค้นหาของเครื่องมือการค้นหา เช่น Google, Bing, Yahoo เป็นต้น

  • SERP (Search Engine Results Page)

หน้าผลการค้นหาของเครื่องมือการค้นหา เช่น Google ที่แสดงผลลัพธ์การค้นหาตามคำค้นหาที่ผู้ใช้กรอกลงไป

  • Keyword

คำหรือวลีที่ผู้ใช้งานพิมพ์ในเครื่องมือการค้นหาเพื่อค้นหาข้อมูลและใช้บริการซึ่งจะเรียกว่าคีย์เวิร์ด

  • Backlink

การลิงค์จากเว็บไซต์อื่นไปยังเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและความน่าสนใจของเว็บไซต์ของคุณ

  • Anchor text

ข้อความที่ใช้ลิงค์ไปยังเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งอยู่ภายในโค้ด HTML

  • Meta Description

คำอธิบายสั้นๆ ที่ปรากฏใต้ชื่อเว็บไซต์ในผลการค้นหา เพื่ออธิบายเนื้อหาหรือบริการที่เว็บไซต์ของคุณมี

  • Title Tag

ส่วนของ HTML ที่อยู่ในหัวของหน้าเว็บไซต์ เพื่อใช้ในการกำหนดชื่อหน้าเว็บไซต์

  • Header Tags

ส่วนของ HTML ที่ใช้ในการจัดกลุ่มเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์ เช่น H1, H2, H3 และอื่น ๆ

  • Alt Text

ข้อความแทนภาพที่ปรากฏเมื่อภาพไม่สามารถแสดงผลได้ ซึ่งใช้เพื่อในการค้นหาผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณในการค้นหา

  • Canonical URL

URL หลักของหน้าเว็บไซต์ที่ใช้เพื่อชี้วางเวอร์ชั่นที่ถูกต้องของหน้าเว็บไซต์นั้น ๆ

  • txt

ไฟล์ข้อความที่บอกเครื่องมือค้นหาว่าจะค้นหาหน้าเว็บไซต์นั้น ๆ หรือไม่

  • Sitemap

ไฟล์ XML ที่รวบรวมลิงค์ทั้งหมดในเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น

  • Google Analytics

เครื่องมือวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ของ Google ที่ใช้ในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ของคุณ เช่น จำนวนผู้เข้าชม, ระยะเวลาการเข้าชม, การเข้าชมหน้าใดบ้าง เป็นต้น

  • A/B Testing

เป็นการทดสอบเวอร์ชั่นของหน้าเว็บไซต์ที่แตกต่างกัน เพื่อหาว่าเวอร์ชั่นใดที่สามารถสร้างผลตอบรับที่ดีที่สุดได้

  • Conversion Rate

อัตราส่วนของผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่ทำการกระทำการตามเป้าหมายที่กำหนด เช่น ซื้อสินค้า, กรอกแบบฟอร์ม, ดาวน์โหลดเอกสาร เป็นต้น

  • CTR (Click-Through Rate)

อัตราส่วนของผู้คลิกที่เห็นลิงค์ของคุณบนผลการค้นหาหรือบนโฆษณา

  • Domain Authority

คะแนนที่ใช้วามวัดความมีอำนาจของโดเมนเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งสามารถส่งผลต่อการติดอันดับบนเครื่องมือค้นหาได้

  • Page Authority

คะแนนที่ใช้วัดความสำคัญของหน้าเว็บไซต์ของคุณ

  • Long-tail Keywords

คำค้นหาที่ยาวและมีความหมายเฉพาะ เช่น “ร้านอาหารไทยในกรุงเทพฯ” เป็นต้น

  • Keyword Density

อัตราส่วนของคำหรือวลีที่ปรากฏบนหน้าเว็บไซต์ เพื่อเป็นตัวบอกความสำคัญของคำหรือวลีนั้น ๆ

  • Schema Markup

รูปแบบข้อมูลที่ใช้สำหรับเว็บไซต์เพื่อเพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ เช่น ชื่อธุรกิจ, ที่อยู่, เวลาเปิด-ปิด และอื่น ๆ

  • LSI Keywords (Latent Semantic Indexing)

คำหรือวลีที่มีความสัมพันธ์กันและเกี่ยวข้องกับคำหลักที่ใช้ในการค้นหา เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ในเนื้อหา

  • Duplicate Content

เนื้อหาที่ซ้ำกันบนหลายหน้าของเว็บไซต์ ซึ่งอาจส่งผลต่อการติดอันดับบนเครื่องมือค้นหา

  • Organic Search Results

ผลการค้นหาที่ปรากฏบนเครื่องมือค้นหาเป็นผลลัพธ์จากการทำ SEO และไม่ได้เป็นผลลัพธ์จากการโฆษณา

  • PPC (Pay-per-click)

วิธีการโฆษณาออนไลน์ที่ต้องจ่ายเงินในการคลิกโฆษณา

  • Landing Page

หน้าเว็บไซต์ที่ถูกไปยังโฆษณาหรือการค้นหา ซึ่งออกแบบเพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้งานทำการกระทำการตามเป้าหมายที่กำหนด เช่น ซื้อสินค้า, กรอกแบบฟอร์ม หรือดาวน์โหลดเอกสาร

  • Conversion Funnel

ขั้นตอนการทำงานของผู้ใช้งานในการเข้าถึงสินค้าหรือบริการของคุณ ตั้งแต่การเข้าชมเว็บไซต์, การเลือกสินค้า, การชำระเงิน จนถึงการส่งสินค้า

  • White Hat SEO

เทคนิคการทำ SEO ที่เป็นกฎหมายและมีความสมเหตุสมผลเพื่อเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบนเครื่องมือค้นหา

  • Black Hat SEO

เทคนิคการทำ SEO ที่ไม่เป็นกฎหมายและไม่มีความสมเหตุสมผล เช่น การซ้อนคีย์เวิร์ด, การเขียนคำค้นหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา, การสร้างหลายๆ เวอร์ชั่นของหน้าเว็บไซต์

  • Link Building

วิธีที่สร้าง backlink เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและความน่าสนใจของเว็บไซต์ของคุณ

  • Social Signals

การแสดงความสนใจของผู้ใช้งานในโซเชียลมีเดียเช่น การแชร์, การไลค์ และความคิดเห็น เป็นต้น ซึ่งอาจมีผลต่อการติดอันดับบนเครื่องมือค้นหา

  • Page Speed

ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญในการติดอันดับบนเครื่่องมือค้นหา

  • Crawl Budget

จำนวนเวลาและแหล่งข้อมูลที่เครื่องมือค้นหาใช้ในการค้นหาและแปลงเว็บไซต์ของคุณเป็นดัชนี

  • Internal Link

การเชื่อมโยงจากหน้าเว็บไซต์ในโดเมนเดียวกันไปยังหน้าเว็บไซต์อื่นในโดเมนเดียวกัน ซึ่งช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างเนื้อหาของเว็บไซต์

  • No-follow Link

การเชื่อมโยงที่ไม่มีผลต่อการโดยตรงติดอันดับบนเครื่องมือค้นหา

  • Do-follow Link

การเชื่อมโยงที่ส่งผลต่อการติดอันดับบนเครื่องมือค้นหา

  • Alt Tag

ข้อความที่ใช้ในการอธิบายภาพในหน้าเว็บไซต์ เพื่อช่วยเครื่องมือค้นหาเข้าใจเนื้อหาของภาพ

  • Keyword Stuffing

การเต็มไปด้วยคีย์เวิร์ดหรือวลีในเนื้อหาของเว็บไซต์โดยไม่มีความสมดุล เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบนเครื่องมือค้นหา

  • Keyword Research

การศึกษาและวิเคราะห์คำค้นหาที่มีความสำคัญต่อการทำ SEO เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบนเครื่องมือค้นหา

  • Meta Description

ข้อความสรุปเกี่ยวกับเนื้อหาของหน้าเว็บไซต์ที่ปรากฏบน SERP

  • Meta Title

หัวเรื่องที่ปรากฏบน SERP และเป็นตัวบอกเนื้อหาหรือบทความของหน้าเว็บไซต์

  • Canonical Tag

การแสดงหน้าเว็บไซต์ที่ถูกทับซ้อนโดยหน้าเว็บไซต์อื่นๆในโดเมนเดียวกัน โดยใช้คำสั่ง canonical tag เพื่อระบุหน้าเว็บไซต์ที่ถูกยืนยันเป็นเวอร์ชันหลัก

  • Indexing

การเก็บข้อมูลและจัดเก็บเว็บไซต์ของคุณในดัชนีเพื่อเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบนเครื่องมือค้นหา

  • Crawling

กระบวนการค้นหาและเก็บข้อมูลเว็บไซต์ของคุณโดยเครื่องมือค้นหา

  • Algorithm

ขั้นตอนการทำงานที่ถูกใช้ในการติดอันดับบนเครื่องมือค้นหา ซึ่งอาจมีการปรับปรุงตามเวลาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา

  • Keyword Difficulty

ระดับความยากของการติดอันดับบนเครื่องมือค้นหาสำหรับคีย์เวิร์ดหรือวลีที่ต้องการ

  • Above the Fold

พื้นที่บนสุดของหน้าเว็บไซต์ที่มองเห็นได้โดยไม่ต้องเลื่อนหน้าเว็บไซต์

  • Bounce Rate

อัตราการย้อนกลับของผู้ใช้งานหรือการออกจากหน้าเว็บไซต์ของคุณทันทีหลังจากเข้าชม

  • Call-to-Action (CTA)

ข้อความหรือภาพที่เชื่อมโยงผู้ใช้งานให้ทำการกระทำตามเป้าหมายที่กำหนด ตัวอย่างเช่น ซื้อสินค้า, ลงทะเบียน, หรือติดต่อเรา

  • Paid Search Results

ผลการค้นหาที่ปรากฏบนเครื่องมือค้นหาโดยมีการจ่ายเงินสำหรับการโฆษณา

  • Mobile Responsiveness

ความสามารถในการปรับตัวเพื่อแสดงผลในอุปกรณ์มือถือหรือแท็บเล็ต

  • SERP Features

คุณลักษณะเพิ่มเติมที่ปรากฏบน SERP เช่น featured snippets, knowledge graphs, และ local pack

  • Rich Snippet

ข้อมูลส่วนเพิ่มเติมที่ปรากฏบน SERP เพื่อช่วยผู้ใช้งานทำความเข้าใจเนื้อหาของหน้าเว็บไซต์

  • Keyword Proximity

ความสัมพันธ์ระหว่างคำหรือวลีที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดและวลีอื่นๆในเนื้อหาของหน้าเว็บไซต์

  • Keyword Stemming

การหาคำหรือวลีที่มีความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหรือวลีที่กำหนด โดยใช้คำต่อท้ายหรือท้ายวลีที่มีความเหมือนหรือเกี่ยวข้อง

  • Local SEO

การทำ SEO เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบนเครื่องมือค้นหาในพื้นที่ที่เป็นสถานที่ที่กำหนด

  • Nofollow

คำสั่งที่ใช้บอกเครื่องมือค้นหาว่าไม่ต้องเชื่อมโยงหรือลิงก์ไปยังหน้าเว็บไซต์นั้น

  • Dofollow

คำสั่งที่ใช้บอกเครื่องมือค้นหาว่าต้องเชื่อมโยงหรือลิงก์ไปยังหน้าเว็บไซต์นั้น

  • Trust Flow

คะแนนความน่าเชื่อถือของหน้าเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของคุณ

  • Citation Flow

คะแนนของจำนวนลิงก์ที่ชี้ไปยังหน้าเว็บไซต์ของคุณ

การทำ SEO เพื่อเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบนเครื่องมือค้นหาจะเป็นเรื่องที่ทุกคนที่มีเว็บไซต์ต้องคำนึงถึง และจำเป็นต้องรู้จักคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องเพื่อทำให้เข้าใจและปรับปรุงการทำ SEO ได้อย่างเหมาะสม เช่น backlink, anchor text, meta tags, sitemap, canonical URL, robots.txt, header tags, crawling, indexing, link building, anchor text optimization และอื่นๆ
การทำ SEO นั้นสำคัญอย่างมากเนื่องจากช่วยเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบนเครื่องมือค้นหาและช่วยเพิ่มการเข้าถึงและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ของคุณ ดังนั้นหากคุณต้องการปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์ของคุณ ควรรู้จักและเข้าใจเกี่ยวกับคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ SEO เพื่อทำให้เข้าใจและปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ